ลดหนี้

2 เทคนิค เคลียร์หนี้ ให้ไว อย่าปล่อยทิ้งไว้ให้หนาว!

เคยไหมที่เวลาเงินเดือนเข้าทีไร แทบจะออกก่อนใช้ทุกที เราเรียกภาวะนี้ว่า “การใช้เงินแบบเดือนชนเดือน” ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่รายจ่ายวิ่งออกอยู่ตลอดเวลา ทั้งค่าบัตรเครดิต ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ฯลฯ กลายเป็นคนมีค่าเต็มไปหมด โดยเฉพาะค่าหนี้จากบัตรเครดิต เพราะถ้ายิ่งจ่ายช้า สิ่งที่ตามมาก็คือค่าปรับและดอกเบี้ย แต่อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไป เพราะเรามี 2 เทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยคุณ เคลียร์หนี้ ต่าง ๆ ให้หมดได้ไว มีประสิทธิภาพ จากชีวิตที่ติดลบ กลายเป็นชีวิตที่ติดบวกได้ไม่ยาก

 

เทคนิคลูกบอลหิมะ (Snowball Method)

 

เคลียร์หนี้

เทคนิคนี้เปรียบการจัดการหนี้สินแบบลูกบอลหิมะ โดยเลือกเคลียร์หนี้ก้อนที่เล็กที่สุดให้หมดก่อน ในขณะเดียวกัน ก็จะจ่ายหนี้ก้อนอื่น ๆ ในจำนวนขั้นต่ำเท่านั้น ป้องกันการเสียประวัติเครดิตบูโรในระยะยาว เมื่อจ่ายหนี้ก้อนที่เล็กที่สุดจนหมด ก็จะขยับไป เคลียร์หนี้ ก้อนที่ใหญ่ขึ้น ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนสามารถเคลียร์หนี้แต่ละก้อนได้ครบ ซึ่งเหมือนกับลูกบอลหิมะที่กลิ้งลงมาจากเขา จากที่ตอนแรกลูกเล็ก พอกลิ้งลงมาเรื่อย ๆ ลูกบอลก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง วิธีนี้จะพิจารณาจากยอดคงเหลือของหนี้แต่ละก้อนเท่านั้น ไม่คำนึงถึงดอกเบี้ย

 

ตัวอย่าง – การใช้เทคนิคลูกบอลหิมะในการจัดการหนี้

เงื่อนไข : มีเงินในการเคลียร์หนี้เดือนละ 30,000 บาท
เจ้าหนี้ ยอดหนี้สิน
(บาท)
อัตราดอกเบี้ย ยอดชำระขั้นต่ำ
(บาท/เดือน)
Repayment1

(บาท/เดือน)

Repayment2

(บาท/เดือน)

Repayment3

(บาท/เดือน)

หนี้ A 30,000 8% 3,000 15,000 15,000
หนี้ B 50,000 15% 5,000 5,000 5,000 20,000
หนี้ C 100,000 12% 10,000 10,000 10,000 10,000
รวมยอดเคลียร์หนี้ในแต่ละเดือน 30,000 30,000 30,000

 

Concept การเคลียร์หนี้แบบเทคนิคลูกบอลหิมะ

  • เลือกเคลียร์หนี้ A ก่อน เพราะยอดน้อยสุด คือ 30,000 บาท
  • เนื่องจากวงเงินในการเคลียร์หนี้ในแต่ละเดือนเท่ากับ 30,000 บาท ดังนั้น หนี้ B และ C จะจ่ายที่ยอดขั้นต่ำ เท่ากับ 5,000 บาท และ 10,000 บาท ตามลำดับ ส่วนที่เหลืออีก 15,000 บาท จะนำไปโปะหนี้ A ซึ่งเป็นหนี้ก้อนที่เล็กที่สุด ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนปิดหนี้ A หมด
  • เมื่อปิดหนี้ A ได้ ต่อไปให้โฟกัสที่หนี้ B ที่ยอดน้อยรองลงมา จากที่เคยจ่ายหนี้ A เดือนละ 15,000 บาท จะนำยอดที่ปกติจ่ายหนี้ A ไปโปะเพิ่มให้หนี้ B ซึ่งเท่ากับ 15,000 + 5,000 = 20,000 บาท และหนี้ C จ่ายที่ขั้นต่ำเท่าเดิม เท่ากับ 10,000 บาท ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนสามารถปิดหนี้แต่ละก้อนได้สำเร็จ

 

ข้อดี : มีกำลังใจในการชำระหนี้ เพราะสามารถปิดหนี้ก้อนเล็กได้ไว ทำให้การปิดหนี้ก้อนที่ใหญ่ขึ้นดูไม่ยากเกินไป

ข้อควรระวัง : เนื่องจากเทคนิคนี้จะคำนึงแค่การปิดหนี้ก้อนเล็กที่สุดก่อน และจ่ายขั้นต่ำในหนี้ก้อนอื่น ๆ  ไม่ได้คำนึงเรื่องดอกเบี้ย ต้องระวังปัญหาดอกเบี้ยทบต้นสูงตามมา

 

เทคนิคหิมะถล่ม (Avalanche Method)

 

เคลียร์หนี้

เทคนิคนี้จะเลือกจัดการหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน ในขณะเดียวกัน ก็จะจ่ายหนี้ก้อนอื่น ๆ ในจำนวนขั้นต่ำเท่านั้น เมื่อจ่ายหนี้ก้อนที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดจนหมด ก็จะขยับไปเคลียร์หนี้ก้อนที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงรองลงมา ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนสามารถ เคลียร์หนี้ แต่ละก้อนได้ครบ เปรียบกับหิมะที่ถล่มลงจากยอดเขารวดเดียว โดยเลือกโปะเงินไปถล่มภูเขาหิมะที่ใหญ่ที่สุดก่อน นั่นก็คือหนี้ก้อนที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อนนั่นเอง วิธีนี้จะพิจารณาจากหนี้ก้อนที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน ไม่สนว่าหนี้ก้อนนั้นจะเยอะหรือน้อย

 

ตัวอย่าง – การใช้เทคนิคหิมะถล่มในการจัดการหนี้

เงื่อนไข : มีเงินในการเคลียร์หนี้เดือนละ 30,000 บาท
เจ้าหนี้ ยอดหนี้สิน
(บาท)
อัตราดอกเบี้ย ยอดชำระขั้นต่ำ
(บาท/เดือน)
Repayment1

(บาท/เดือน)

Repayment2

(บาท/เดือน)

Repayment3

(บาท/เดือน)

หนี้ A 30,000 8% 3,000 3,000 3,000 3,000
หนี้ B 50,000 15% 5,000 17,000 17,000 16,000
หนี้ C 100,000 12% 10,000 10,000 10,000 11,000
รวมยอดเคลียร์หนี้ในแต่ละเดือน 30,000 30,000 30,000

 

Concept การเคลียร์หนี้แบบเทคนิคหิมะถล่ม

  • เลือกเคลียร์หนี้ B ก่อน เพราะอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด คือ 15%
  • เนื่องจากวงเงินในการเคลียร์หนี้ในแต่ละเดือนเท่ากับ 30,000 บาท ดังนั้น หนี้ A และ C จะจ่ายที่ยอดขั้นต่ำ เท่ากับ 3,000 บาท และ 10,000 บาท ตามลำดับ ส่วนที่เหลืออีก 17,000 บาท จะนำไปโปะหนี้ B ซึ่งเป็นหนี้ก้อนมีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนปิดหนี้ B หมด
  • จากตารางจะเห็นว่า ครั้งที่ 3 สามารถปิดหนี้ B ได้ โดยจ่ายงวดสุดท้าย จำนวนเพียง 16,000 บาท ดังนั้นจะเหลือเงินเพิ่มอีก 1,000 บาท ให้นำเงินจำนวนนี้ไปโปะเวลาจ่ายคืนหนี้ C ซึ่งเท่ากับ 1,000 + 10,000 = 11,000 บาท และหนี้ A จ่ายที่ขั้นต่ำเท่าเดิม เท่ากับ 3,000 บาท ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนสามารถปิดหนี้แต่ละก้อนได้สำเร็จ

 

ข้อดี : ระยะเวลาในการปลดหนี้สั้นลง และประหยัดเงินจากดอกเบี้ย

ข้อควรระวัง : ยากกว่า เพราะต้องมีวินัยสูง ใช้ความอดทนมากกว่า และใช้เวลาในการปลดหนี้นานกว่า

 

ความแตกต่างระหว่าง เทคนิคลูกบอลหิมะ (Snowball Method) และ เทคนิคหิมะถล่ม (Avalanche Method)

 

หัวข้อ Snowball Method Avalanche Method
หลักการ พิจารณาจากยอดคงเหลือของหนี้เป็นหลัก พิจารณาจากยอดหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดเป็นหลัก
ลำดับการชำระหนี้ เริ่มจากยอดหนี้ที่น้อยที่สุดไปมากที่สุด เริ่มจากยอดหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดไปต่ำที่สุด
ระยะเวลาในการชำระหนี้ ใช้เวลามากกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า
การประหยัดดอกเบี้ย ประหยัดดอกเบี้ยได้น้อยกว่า ประหยัดดอกเบี้ยได้มากกว่า
เหมาะกับใคร คนที่มีหนี้หลายก้อน แต่ละก้อนมีอัตราดอกเบี้ยต่างกันมาก ต้องการประหยัดดอกเบี้ย และมีวินัยสูง คนที่มีหนี้หลายก้อน แต่ละก้อนมีอัตราดอกเบี้ยไม่ต่างกันมาก ต้องการแรงจูงใจในการชำระหนี้

 

เรียนรู้ขั้นตอนและวิธีจัดการหนี้ด้วยเทคนิคดี ๆ กับ Skooldio แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ในเครือ LEARN Corporation ได้ฟรี! (คลิก)