‘ความสุข’ ที่ได้ช่วยพัฒนาสังคม ของ "ภัฏ เตชะเทวัญ”

มีนาคม 11, 2020

“ภัฏ เตชะเทวัญ” ผู้จัดการทั่วไป Learn Education กับความตั้งใจเพื่อพัฒนาสังคมด้านการศึกษา

จากโปรแกรมเมอร์ สู่การทำงานการศึกษา
“ผมเรียนจบด้านวิศวะคอม ที่ nanyang technological university ประเทศสิงคโปร์ จบมาก็ได้ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ประมาณปีนึง ก่อนกลับไปช่วยธุรกิจที่บ้าน จากนั้นย้ายไปทำงานการพัฒนาธุรกิจ ที่ P&G ประมาณ 1 ปี แล้วก็กลับมาทำธุรกิจของตัวเองในด้าน Social Enterprise ได้ช่วยคิด Business Model ให้กับมูลนิธิ และทำธุรกิจเกี่ยวกับของเล่นพัฒนาการเด็ก หลังจากทำธุรกิจมาเยอะ ก็เริ่มอยากหาประสบการณ์เพิ่ม เลยกลับมาทำงานประจำและทำธุรกิจของตัวเองควบคู่ไปด้วย ซึ่งที่แรกเป็นที่ปรึกษาอยู่บริษัท Gallup ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนา customer segmentation หลังจากนั้นย้ายไปอยู่ที่ AP ดูแลธุรกิจใหม่ด้านดิจิทัล ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ Learn Corporation ครับ”

การทำงานในออฟฟิศและการพัฒนาสังคม ความลงตัวที่ไปด้วยกัน
“โดยส่วนตัวเชื่อเรื่องนี้มากๆ ว่าไปด้วยกันได้ การทำงานสามารถพัฒนาสังคมได้จริง เช่น Learn ต้องเข้าใจนักเรียนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคืออะไร แล้วต้องทำอะไรเพื่อมาแก้ ดังนั้นรากฐานของการสร้างทุกธุรกิจ เกิดจากการพยายามแก้ปัญหาในสังคมอยู่แล้ว ทุกวันเราเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาสังคมในขณะที่เราก็ทำงานและพัฒนาตัวเองไปด้วย”
Edtech กุญแจสำคัญของการพัฒนาการศึกษาในอนาคต
“ในอนาคตผมมองว่า Edtech เริ่มมุ่งไปที่ Individual life learning มากขึ้น เป็นลักษณะของการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล เพื่อความประสบความสำเร็จในแบบของตัวเอง เข้าใจจุดแข็งหรือจุดที่เราถนัด แต่ระบบการศึกษาไทยมีข้อจำกัด เพราะนโยบายการศึกษาล่าช้า สิ่งที่อยากทำคือ การหาวิธีการเพื่อให้นวัตกรรมเข้าไปถึงเรื่องการศึกษาได้ โดยไม่ต้องผ่านปัจจัยที่เหนือการควบคุม และสิ่งที่ Learn ทำ คือเราสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาการศึกษา แล้วเข้าไปหาโรงเรียนที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกับเรา แล้ววันหนึ่งนวัตกรรมจะได้รับการยอมรับมากขึ้น นโยบายการศึกษาจะเปลี่ยนเพื่อเรา เป็นที่มาว่าทำไม Learn ถึงสามารถสร้างนวัตกรรมทางการศึกษา แล้วเปลี่ยนวงการการศึกษาในเมืองไทยได้จริง”

Work Life Balance ในแบบของคนเสพติดการทำงาน
“เรื่อง Work Life Balance ผมคิดชีวิตการทำงานกับชีวิตของตัวเราเองมันคือเรื่องเดียวกัน ถ้าเราทำในสิ่งที่เรามีความสุขกับมัน ก็เหมือนเราใช้ชีวิตทุกวันไปเรื่อยๆ เลยมองว่าเราไม่จำเป็นที่จะต้องพยายามแบ่งว่าทำงานกี่เปอร์เซนต์ มีชีวิตส่วนตัวกี่เปอร์เซนต์ ผมไม่เชื่อว่ามันมีงานที่ชอบอยู่จริง ไม่ว่าเราจะไปทำงานที่ไหน ถ้าเรามองหาแต่สิ่งที่เราไม่ชอบ เราก็จะไม่มีวันมีความสุข แต่ถ้าเราเข้าไปทำงานแล้ว ค้นหาความสุขจากแต่ละเรื่องที่ทำ และเรียนรู้ว่าในแต่ละวันเราทำอะไร หรืออยากทำอะไรเพื่อให้มีความสุข เพราะฉะนั้น การมี Work Life Balance ไม่ใช่การมองหางานที่เราจะมี Balance ให้กับมัน แต่พยายามค้นหาว่าอะไรในงานที่เราทำได้ทุกวันและมีความสุข Focus สิ่งนั้นจนเรามีความสุขทุกวันมากกว่า”
ความคิดคนรุ่นใหม่ผสานประสบการณ์คนรุ่นเก่า
“สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องทำงานกับคนที่มีประสบการณ์เยอะ มีทัศนคติ และมุมมองที่แตกต่างจากเรา สิ่งที่เราต้องทำ คือ เปิดใจเรียนรู้จากคนเหล่านั้น แต่ยังคง passion ของตัวเองไว้ เรียนรู้ประสบการณ์จากหลายๆ คน แล้วนำมาพัฒนาตัวเอง หรือต่อยอดงานของเราให้ดีขึ้น”
“รุ่นใหม่หลายคนเป็นคนเก่ง ส่วนคนที่มีประสบการณ์เยอะก็เป็นคนเก่งอีกมิตินึง เขามองในมุมมองที่แตกต่างจากเรา มันคือการเรียนรู้และนำมาเบลนด์ร่วมกัน พัฒนาให้เราเติบโตในองค์กร และเติบโตในอาชีพได้ดีขึ้น”

ความสุขของการพัฒนาสังคมที่ Learn Corporation
“การได้ทำโปรเจคเยอะๆ ทำให้เราเปิดกว้างมุมมองใหม่ๆ ส่วนที่ดีคือเราได้เจอกับคนที่มีไฟ มีความคิด หรือ Product Owner หลายคนๆ ที่เราได้คุยด้วย มีมุมมองที่ดี อายุน้อยกว่าเรา แต่ได้เรียนรู้จากพวกเขาเยอะมากๆ”
“คนที่นี่เฟรนด์ลี่ คุยง่าย ทำงานแต่ละวันค่อนข้างมีความสุข ได้เรียนรู้หลายอย่าง มีโอกาสได้ดูแลหรือสร้างโปรเจคที่เราอยากทำแล้วมี Passion กับมันจริงๆ อันนี้คือสิ่งที่ชอบมาก ไม่ได้ตีกรอบว่าเราต้องทำอะไร ให้เป็นตัวเองเต็มที่ และช่วยผลักดันเรา นี่คือสิ่งที่ได้เรียนรู้และได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบจริงๆ”