ในการหางานสักงานหนึ่ง สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลย ก็คือ Resume แต่เชื่อไหมว่าเรซูเม่สามารถบ่งบอกตัวตน รวมถึงสร้าง First Impression ให้กับผู้ว่าจ้างได้รู้จักกับผู้สมัครงาน มีผู้สมัครจำนวนไม่น้อยที่เคยโดนปัดตกเพราะเรซูเม่ไม่น่าสนใจ การเขียนเรซูเม่ไม่ใช่แค่เขียนอะไรก็ได้ แต่มีรายละเอียดมากมาย แล้วจะทำยังไง ให้เราไม่เป็นหนึ่งในคนที่โดนปัดตก ลองมาดู ตัวอย่าง Resume สมัครงาน ที่ถ้าเขียนแบบนี้ มีโอกาสไม่ได้ไปต่อเป็นแน่

ตัวอย่างการเขียน Resume 6 แบบที่ควรเลี่ยง เสี่ยงโดนปัดทิ้ง

1. ละเลยกับการเลือกรูปแบบ Resume และแบบอักษร

ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่ให้ผู้สมัครเลือกเทมเพลต Resume สมัครงาน หลากหลายรูปแบบ แต่ไม่ใช่ทุกแบบที่จะเหมาะกับการสมัครงาน ดังนั้นควรให้ความสำคัญในการเลือกรูปแบบ ใส่ใจและเลือกให้เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่สมัคร ถ้าเป็นสายงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับกราฟิก หรือออกแบบ ควรเลือกรูปแบบที่สุภาพ สบายตา ไม่ฉูดฉาด เพื่อแสดงถึงความเป็นมือชีพ และควรใช้แบบอักษรและขนาดที่เหมาะสม อ่านง่าย

2. ใช้อีเมลที่ไม่เป็นทางการในการสมัครงาน

อีเมลที่ใช้ในการสมัครงาน ควรใช้ชื่อที่เป็นทางการเพื่อแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ เช่น ชื่อและนามสกุล หรือชื่อที่ระบุได้ว่าใครเป็นผู้สมัคร เลี่ยงการใช้ชื่ออีเมลที่ไม่เหมาะสม หรือความหมายไม่ดี ถ้าใครยังไม่มีอีเมลที่เป็นชื่อทางการ แนะนำให้สมัครใหม่ แยกจากอีเมลที่ใช้ในการสมัคร Social Media อื่น ๆ จะเป็นการดีที่สุด

3. มีช่วงเวลาว่างงานมากเกินไป

มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกออกจากงานเพื่อหาประสบการณ์ Gap Year แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราเปลี่ยนจุดอ่อนตรงนี้ไม่ให้เป็นช่องโหว่ที่ทำให้เราไม่ได้งาน ถึงเราจะมีช่วง Gap Year ปรากฏในเรซูเม่ ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีสิทธิ์ที่จะได้งานใหม่ ดังนั้น การเตรียมคำตอบเพื่อรับมือกับเรื่องนี้ด้วยความซื่อสัตย์ ไม่ปกปิดข้อมูล จะช่วยทำให้เราดูมีความจริงใจมากขึ้น รวมถึงการเขียน Cover Letter เพื่อรองรับเหตุผลการว่างงานก็สามารถช่วยได้

4. เปลี่ยนงานบ่อย หรือ Job Hopping กันเป็นว่าเล่น

ใครที่มีประวัติ Job Hopping หรือ เปลี่ยนงานบ่อยในเรซูเม่ ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงที่จะโดนปัดตก เพราะในสายตาของนายจ้าง หรือ HR ที่เคยเห็น ตัวอย่าง Resume สมัครงาน มามากมาย อาจมองว่ากลุ่มคนแบบนี้ไม่ค่อยสู้งาน ดังนั้น การเลือกเขียนเน้นทักษะ ความสำเร็จ และการต่อยอดจากงานเก่าสู่งานใหม่ที่สมัคร จะช่วยทำให้เรซูเม่น่าสนใจมากขึ้น จุดสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือการเขียน Cover Letter แนบไปกับเรซูเม่ ชี้แจงถึงสาเหตุที่ลาออกในเชิงบวก รวมถึงบอกจุดประสงค์ในการสมัครงานให้ชัดเจน จะทำให้คนอ่านเห็นถึงความตั้งใจในการสมัครงานกับบริษัทนั้นจริง ๆ ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้ารอบต่อไปได้

5. เขียน Resume ยาวหรือสั้นเกินไป

Resume สมัครงานที่ดีควรมีเนื้อหาจำนวน 1-2 หน้ากระดาษ A4 ไม่เกินนี้ เนื่องจาก HR หรือนายจ้าง จะตรวจดูเรซูเม่โดยการอ่านแบบ Skimming หรืออ่านแบบคร่าว ๆ เพื่อเก็บแต่ข้อมูลสำคัญดังนั้น ควรเขียนเรซูเม่ให้กระชับ เน้นข้อมูลสำคัญและทักษะการทำงานที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร แบ่งเนื้อหาแต่ละส่วนให้ชัดเจน เป็นระเบียบ และควรใช้ Bullet ในการเขียนสรุปเป็นข้อสั้น ๆ เพื่อย่อยเนื้อหาให้น่าอ่าน

6. ไม่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในเรซูเม่

สิ่งสุดท้ายที่จำเป็นต้องทำก่อนส่งเรซูเม่ คือการตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาในส่วนต่าง ๆ ที่ปรากฏในเรซูเม่ เช่น ชื่อ-สกุล ที่อยู่ อีเมลสำหรับการติดต่อกลับ เบอร์โทรศัพท์ ประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา ข้อมูลทุกอย่างควรอัปเดตให้เป็นปัจจุบัน รวมถึงตรวจสอบความถูกต้องของการสะกดคำเพื่อลดข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งจะสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพของคุณ

หลายเว็บไซต์มีเทมเพลต ตัวอย่าง Resume สมัครงาน ให้เลือกใช้มากมาย แน่นอนว่า Resume ที่ดี ย่อมสร้างข้อได้เปรียบให้กับผู้สมัคร ลองพิจารณา 6 ข้อ จากบทความนี้ เพื่อให้ Resume ของคุณไม่โดนปัดตกและมีโอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปมากขึ้น