4 สุดยอดวัฒนธรรมองค์กรที่ต้องไปยื่นเรซูเม่

#ตัดสินใจย้ายงาน เมื่ออยากหางานใหม่องค์กรที่กำลังมองหานอกจาก เงินเดือน? สวัสดิการ?‍⚕ และความสะดวกในการเดินทางไปออฟฟิศ? ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวแปรสำคัญช่วยให้ผู้สมัครตัดสินใจยื่นเรซูเม่ คือ #วัฒนธรรมองค์กรหรือธรรมเนียมปฏิบัติภายใน ก็สามารถดึงดูดให้หลายคนอยากมาทำงานได้ เหมือนกับ 4 องค์กรนี้! 

Google

เลือกที่จะมองหาคนที่ใช่และเหมาะสมกับองค์กร ว่าง่ายๆ คือบริษัทเลือกที่จะลงทุนในคนนั้น ตั้งแต่ทรัพยากรเวลาจนถึงการสร้างความสำเร็จให้กับทั้งองค์กรและตัวของพวกเขาเอง โดยมีคุณลักษณะ 4 ข้อ คือ

  • Generate cognitive ability มีความสามารถในการแสดงกระบวนการคิด มีวิธีหาคำตอบที่น่าสนใจ และหาทางแก้ปัญหาได้
  • Role related knowledge มีความสามารถในการเรียนรู้ ไม่จำเป็นต้องเก๋าประสบการณ์โดยตรง ขอแค่มีความทะเยอทะยาน กระหายที่จะเรียนรู้ มี Growth mindset เชื่อว่าทุกสิ่งเรียนรู้ได้ และสามารถถ่ายทอดเอาทักษะนั้นออกมาใช้ตามบทบาทที่ทำ
  • Leadership มีภาวะผู้นำ รู้ว่าเมื่อไหร่ควรก้าวเพื่อนำและถอยกลับเมื่อจำเป็น เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นได้มีบทบาทบ้าง
  • Googleyness อาจไม่จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรม Google 100% แต่ต้องให้ความสำคัญกับฟีดแบค กล้าท้าทาย รับผิดชอบต่อโอกาสที่ได้รับ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และพร้อมที่จะออกจาก comfort zone

Facebook 

แม้เป็นองค์กรเทคโนโลยี ทำให้พวกเขาไม่เคยะละเลยกับความเครียดที่พนักงานต้องเจอ Facebook เลยมีวัฒนธรรมที่เน้นทั้งความสนุกและผ่อนคลายให้กับพนักงานไปพร้อมกัน เช่น 

  • การแข่งขัน = สิ่งที่ดี ที่นี่เปลี่ยนการแข่งขันให้สนุกขึ้นและให้พนักงานพัฒนาตัวเองไปด้วยกับการแข่งขันเขียน code ร่วมกันเป็นทีม เพื่อให้พวกเขาได้สามัคคีกันสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา 
  • ลาพักร้อน 21 วัน เพราะเป็นองค์ที่ทั้งงานเยอะ ค่าตอบแทนสูง คนอาจมองว่ามีวันหยุดน้อยแน่ แต่จริงๆ ที่นี่มีโควต้าวันลาพักร้อนได้ถึง 21 วัน และลาป่วยกี่วันก็ได้โดยที่ได้รับเงินเดือน 
  • เพศไหนก็ลาคลอดได้ Facebook บริษัทมีนโยบายให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ สามารถใช้สิทธิ์ในการลาเพื่อไปดูแลลูกได้ถึง 4 เดือน โดยที่ยังได้รับเงินเดือนตามปกติ และที่พิเศษสุดคือพ่อแม่ที่เป็นเพศเดียวกัน ก็สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้ด้วย

Netflix

แพลตฟอร์มสตรีมมิงหนังและรายการทีวีบนโลกออนไลน์ก็ประสบความสำเร็จทั้งด้านธุรกิจ รวมถึงวิธีคิดและวัฒนธรรมองค์กรที่น่าสนใจทั้ง 5 ข้อนี้ด้วยเหมือนกัน 

  • ตัดสินใจด้วยตัวเองอย่างอิสระ องค์กรเน้นให้อิสระกับพนักงานเต็มที่ เพื่อให้พวกเขามีแรงผลักดันในตัวเอง ไม่จำกัดอำนาจการตัดสินใจ ทำให้ทุกคนเป็นเจ้านายในตัวเอง เพื่อรักษาคนเก่งๆ อยู่กับองค์กร แต่พนักงานก็ต้องมีวินัยในการทำงานด้วยเช่นกัน 
  • เปิดเผยอย่างกว้างขวาง พนักงานทุกคนจะต้องเข้าใจธุรกิจ รู้จักคู่แข่ง และรับรู้รายได้ขององค์กร เพื่อให้พวกเขาคิดอยู่เสมอว่าตัวเองเปรียบเหมือนคนสำคัญที่คอยขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตไปด้วยกัน
  • วิจารณ์กันต่อหน้า ไม่พูดลับหลัง ส่งเสริมให้พนักงานแสดงความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์ โดยไร้อคติ เพราะเชื่อว่าฟีดแบคที่ดีจะช่วยพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น
  • รักษาคนที่เก่งไว้เท่านั้น เน็ตฟลิกซ์มีความเชื่อว่าการทำงานแบบสปอร์ตทีมที่ดีที่สุด คือ มีเป้าหมายเดียวกัน ตัดสินกันด้วยผลงาน และอาจไม่อยู่ด้วยกันตลอดไป โดยวัดผลผ่าน Keeper test แบบทดสอบรักษาพนักงาน 
  • กฎระเบียบน้อยที่สุด เพราะที่นี่ให้ความสำคัญเรื่องอิสระกับพนักงาน รวมถึงสวัสดิการดีๆ ด้วย เช่น พักร้อนเมื่อไรก็ได้ไม่มีเวลากำหนด, นโยบายลาคลอดได้ 1 ปี พร้อมรับเงินเดือนเหมือนเดิม, สามารถเลือกได้ว่าต้องการรับค่าจ้างในรูปแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นเงินสด เช็ค หรือหุ้นของบริษัท

Learn Corporation 

วิถีการทำงานของ Learn Corporation สะท้อนถึงนิสัย วิธีคิด และวิธีการทำงานร่วมกันภายใต้ 4 ปัจจัย คือ 

▪ Do the right things (ทำสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม) 

▪ Empathy first (เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง)

▪ Feedback and encourage (สื่อสารและสร้างพลังในการพัฒนาต่อ) 

▪ Growth mindset learner (มีจิตใจพร้อมเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง) 

เพื่อให้ทุกคนในองค์กรได้ทำงานร่วมกันออย่างมีความสุข พร้อมที่จะสร้างคุณค่าให้ตัวเองไปกับการทำสิ่งพิเศษเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม